Saturday, August 2, 2008

หัวเราะ สุขภาพยืนยาว


หัวเราะยืนยง สุขภาพยืนยาว


นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ถ้าเรานำเสียงหัวเราะมาสังเคราะห์เป็นยาได้ เราคงจะมียาวิเศษที่สามารถรักษาโรคทุกชนิดได้ตั้งแต่ โรคซึมเศร้าไปจนถึงโรคร้ายแรงอย่างโรคหัวใจเลยทีเดียว

การหัวเราะทำให้อวัยวะทุกส่วนตั้งแต่หัวใจ ปอด กล้ามเนื้อ สมอง ไปจนถึงระบบภูมิคุ้มกันร่างกายทำงานได้อย่างดี

การหัวเราะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายของคนเราได้ 2 ทาง คือ ทางแรก เพิ่มระดับความเข้มข้นของแอนตี้บอดี้ที่เป็นภูมิคุ้มกันหมุนเวียนอยู่ในกระแสเลือด ส่วนทางที่สอง เป็นการเพิ่มระดับเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นตัวกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่หลุดเข้ามาในร่างกาย การเปลี่ยนแปลงทั้ง 2 แบบนี้ จะช่วยทำให้เรามีภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ มากขึ้นนั่นเอง

ในอเมริกา แคนาดา อังกฤษ อินเดีย และอีกหลายๆ ประเทศ การรักษาผู้ป่วยด้วยการหัวเราะกำลังเข้ามาแทนที่การบำบัดด้วยการใช้ยาคลายเครียด และยาแก้ปวด เพราะอารมณ์ขันให้ผลเช่นเดียวกับการออกกำลังกาย เป็นการเพิ่มระดับฮอร์โมนฝ่ายดี เช่น ฮอร์โมนเอนดอร์ฟิน (endorphin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยระงับความเจ็บปวด และ neurotransmitter เช่น ฮอร์โมนเซโรโทนิน (serotonin) เป็นฮอร์โมนที่ทำให้เราอารมณ์ดี ขณะเดียวกันก็ทำให้ระดับฮอร์โมนความเครียด cortisol และ stimulant ลดลง

นักวิจัยจากแสตนฟอร์ดพบเช่นเดียวกันว่า หัวเราะเพียง 10 วินาที มีค่าเท่ากับการออกกำลังกายบนเครื่องกรรเชียงถึง 3 นาที เพราะการหัวเราะทำให้หัวใจ และชีพจรเต้นเร็วขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย เมื่อหยุดหัวเราะร่างกายจะค่อยๆ เข้าสู่ภาวะปกติ จึงรู้สึกผ่อนคลาย ดังนั้นคนเราน่าจะสนุกกับชีวิตให้มากกว่านี้ อย่าเครียดหรือจริงจังกับชีวิตจนเกินไป ปล่อยวางเสียบ้าง เพิ่มอารมณ์ขันให้กับตัวเองอีกวันละนิดพิชิตความเครียดได้วันละหน่อย ปกติอาจเป็นคนที่ไม่เคยอ่านการ์ตูน เรื่องขำขัน หรือสนใจทอล์กโชว์ ก็ลองหามาอ่านมาดูบ้าง ไม่ใช่เรื่องไร้สาระอย่างที่คิด บางครั้งคนเราก็ควรเติมสิ่งที่ขาดหายไปในตัวเองเพิ่มเข้าไป

การทำตัวเป็นเด็กบ้างก็จะรู้สึกสนุกกับชีวิตมากขึ้น ไม่เชื่อคุณลองสังเกตดูคนขี้เล่นมักจะเป็นคนมีเสน่ห์ที่ใครๆ หลงใหลชอบพูดคุยด้วยเสมอ คนที่หัวเราะเก่งๆ จะมีความคิดสร้างสรรค์ดีกว่าคนช่างเครียด และคนส่วนใหญ่ที่มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานก็มักจะเป็นคนที่มีอารมณ์ขันด้วยเช่นกัน….แล้วคุณเป็นแบบไหนล่ะครับ?


ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today

No comments: